หากคุณเป็นทำธุรกิจ สิ่งที่สำคัญคือ เงินทุน ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า แต่หากขาดน้ำมันเครื่องยนต์ก็ไม่สามารถพาผู้ขับขี่ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ ดังนั้นการขอ สินเชื่อธุรกิจ แบบไม่ต้องกลัวขอสินเชื่อไม่ผ่านทําไงดี จึงเปรียบเสมือนการแวะปั๊มเติมน้ำมันเพื่อผลักดันให้ธุรกิจของเราไปต่อได้นั่นเอง
นอกจากเรื่องของทริคตั้งชื่อร้าน การทำธุรกิจ SME ที่ต้องการกู้เงินจากธนาคารมาเพื่อขยับขยายกิจการ ปรับปรุงกิจการ หรือยกระดับมาตรฐานของกิจการให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เราขอเชิญทำความรู้จักกับ สินเชื่อ SME ดอกเบี้ยsme และ สินเชื่อร้านค้า เพื่อสามารถดำเนินการ กู้sme ได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด โดยเริ่มจากการแนะนำประเภทของ สินเชื่อ SME และดอกเบี้ยสินเชื่อ sme กันก่อน
สินเชื่อธุรกิจ SME มี 2 ประเภท
สินเชื่อแบบมีหลักประกัน เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน หุ้นกู้ และอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยให้ผู้กู้มีโอกาสได้รับวงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ และเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้ยาวนาน แต่สำหรับผู้กู้ที่ไม่สะดวกใช้หลักประกันขอสินเชื่อก็ไม่ได้ถูกตัดโอกาสเพราะยังมีสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันให้เลือกยื่นกู้ เพียงแต่อาจจะได้วงเงินไม่สูงมากเท่าสินเชื่อแบบมีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า และระยะเวลาผ่อนชำระที่ไม่ยาวนานเท่า ซึ่งวงเงินที่ได้รับอนุมัติอาจเพียงพอต่อจุดประสงค์การใช้จ่ายในครั้งนั้น ๆ อยู่แล้วก็เป็นได้
ควรเตรียมตัววิธีขอสินเชื่อให้ผ่านเพื่อธุรกิจ SME อย่างไร
สิ่งสำคัญของการยื่นกู้ทุกชนิดนั่นคือความน่าเชื่อถือของผู้กู้ เพื่อให้วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน เมื่อผู้กู้เป็นธุรกิจหรือร้านค้าก็ต้องทำให้ธุรกิจหรือร้านค้านั้นมีความน่าเชื่อถือในทุกด้าน เช่น การจดทะเบียนพาณิชย์ จัดตั้งในรูปแบบห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด หรือรูปแบบอื่น ๆ ตามความเหมาะสม พร้อมทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของกิจการเพื่อแสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวของกระแสเงินสด หากมีการเดินบัญชีสม่ำเสมอ มีรายรับเข้าเป็นประจำ ไม่มีการถอนเงินก้อนที่ได้รับออกมาภายในวันเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นควรมีประวัติการจ่ายหนี้ที่ดีด้วย พูดง่าย ๆ ว่าการเดินบัญชีควรดูดีทั้งรายรับ-รายจ่ายนั่นเอง
ควรสอบถามปรึกษาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารแต่ละแห่งโดยตรง
การกู้สินเชื่อเพื่อธุรกิจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่าการขอสินเชื่อบุคคล เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์แตกต่างกันออกไป เช่น ต้องเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการมามากกว่า 3 - 5 ปีแล้ว หรือต้องเป็นธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 2 ล้าน เมื่อหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และนโยบายของการปล่อยสินเชื่อของแต่ละธนาคารแตกต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดในการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจคือการเข้าไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง เล่าถึงจุดประสงค์การกู้ แผนธุรกิจ รายละเอียดของธุรกิจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสามารถแนะนำสินเชื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจได้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญนั่นคืออย่าลืมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจยื่นกู้ เพราะส่วนต่างเพียง 0.01% ก็อาจกลายเป็นเงินมูลค่าสูงกว่าที่คิดได้
แนะนำว่าให้เตรียมตัว เพื่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงความน่าเชื่อถือส่วนบุคคลของผู้มีอำนาจลงนามด้วยเช่นกัน หากทำให้ธนาคารมองเห็นความสามารถในการชำระหนี้ได้โอกาสจะได้รับอนุมัติสินเชื่อก็รออยู่ไม่ไกล หรือลองปรึกษากับทางสถาบันการเงินที่สนใจได้เลย